จากที่หลายคนเคยได้ยินมาเรื่องการดูแลสุขภาพเป็นสิ่งจำเป็นมาก ไม่ว่าจะการออกกำลังกาย การทานอาหาร รวมไปถึงการสูดอากาศบริสุทธิ์ จะช่วยให้ร่างกายเราอยู่ได้นานขึ้นและแข็งแรง ซึ่งเป็นเรื่องจริงแต่สำหรับคนกรุงในปัจจุบันเรียกได้ว่าค่อนข้างยากเลย เรื่องฝุ่น PM 2.5 ที่เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว เรียกได้ว่าเจอตลอดวันทั้งตอนเช้าที่เริ่มก้าวออกไปทำงาน และเย็นที่นั่งรถกลับบ้านอันแสนเหน็ดเหนื่อยและฝ่าฝูงมลพิษต่างๆ
การป้องกันตัวเองจากมลพิษเหล่านี้คือการใช้หน้ากากกันฝุ่น ซึ่งในตลาดตอนนี้มีความต้องการมากและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังเป็นวัสดุที่ใช้แล้วทิ้งเป็นวัสดุสิ้นเปลืองมาก ทำให้เราต้องมองหาตัวเลือกมาทดแทนอย่าง เครื่องฟอกอากาศ ถือเป็นไอเทมนึงที่น่าสนใจเหมือนกัน สำหรับใช้ในพื้นที่ในบ้าน ออฟฟิส ที่เราต้องใช้เวลาอยู่กับที่นั้นนานๆ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณนั่เอง
สำหรับเครื่องฟอกอากาศตามท้องตลาดตอนนี้ มีหลากหลายแบรนด์ดังให้เลือก ซึ่งเราต้องแยกค่ายออกมาให้ชัดเจนเพื่อความสะดวกในการเลือกซื้อ ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
- OBM (Original Brand Manufacturer) : เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์เจ้าใหญ่ที่เริ่มคิดค้น ผลิต ทำการตลาดและส่งขายเองทั้งหมด ที่ส่วนใหญ่เราจะคุ้นตากันอยู่ตามท้องตลาดในเมืองไทย เช่น Sharp/ Hitachi/ Toshiba/ Panasonic/ Honeywell/ BlueAir/ Daikin เป็นต้น
- OEM (Original Equipment Manufacturer) : ทำความรู้จักกันง่ายขึ้น คือ การที่สินค้าถูกสั่งผลิตในต่างประเทศมีลักษณะ หน้าตา และฟังก์ชันที่ใกล้กับแบรนด์ดังๆ แต่ใช้โลโก้แกบรนด์ของตัวเองนั่นเอง ซึ่งไม่ได้มีแค่ในประเทศไทยที่มีแบบนี้เท่านั้น
ส่วนใหญ่จะต่างกันในด้านของแบรนด์มากกว่า สำหรับคนที่ไม่มั่นใจแบรนด์รองแนะนำให้ซื้อกับแบรนด์ที่นิยมในตลาดก็ดีครับ ทั้งในเรื่องการระกันสินค้าและบริการที่ได้อาจมีความน่าเชื่อถือมากกว่า สำหรับคนที่ชอบลองของใหม่เบื่อแบรนด์ดังแล้วก็เรื่องแบรนด์รองมาใช้สักตัวก็ดีเหมือนกัน อาจจะต้องเปรียบเทียบเรื่องฟีเจอร์ หลักการทำงาน และวตัวฟิลเตอร์ของเครื่องฟอกอากาศรุ่นนั้นๆ อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อความมั่นใจในการเลือกซื้อ
รวมไปถึงพื้นที่ที่ต้องการใช้งานควรวัดขนาดเป็นตารางเมตรให้เรียบร้อย สิ่งที่เราแนะนำได้จะเป็นเรื่องของความสามารถในการกรองอากาศ และฟิลเตอร์ต่างๆ ที่แต่ละเครื่องมีให้ควรมีแผ่นกรองประมาณ 3 แบบขึ้นไป เพื่อการกรองที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และกรองได้สะอาดขึ้นนั่นเอง